วิธีตรวจสอบ ซ่อมแซม หรือเปลี่ยนแบตเตอรี่ Samsung Galaxy

วันที่ปรับปรุงล่าสุด : 2025-12-09

หากอุปกรณ์ Galaxy ของคุณแสดงอาการว่าแบตเตอรี่เสียหายหรือประสิทธิภาพลดลง อาจถึงเวลาที่ต้องตรวจสอบหรือเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่ Samsung Service Center ค้นหาสัญญาณที่บ่งบอกว่าควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ วิธีการตรวจสอบอย่างรวดเร็ว เมื่อใดที่ควรเปลี่ยน และเหตุผลที่ควรซ่อมแซมอุปกรณ์ที่ Samsung Service Center

ควรตรวจสอบแบตเตอรี่ Galaxy ของคุณเมื่อใด

หากอุปกรณ์ Galaxy ของคุณปิดเครื่องโดยไม่คาดคิด แบตเตอรี่หมดเร็ว หรือชาร์จไม่เข้า อาจถึงเวลาที่ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่

อย่างไรก็ตาม อาการเหล่านี้อาจเกิดจากแอปที่ทำงานอยู่เบื้องหลังหรือระบบทำงานหนักเกินไป เพื่อให้วินิจฉัยได้อย่างแม่นยำ เราขอแนะนำให้ไปที่ Samsung Service Center เพื่อรับการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ ใช้ฟีเจอร์การวิเคราะห์โทรศัพท์ในแอป Samsung Members เพื่อตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่

สาเหตุที่แบตเตอรี่หมดอย่างรวดเร็ว

การใช้แบตเตอรี่อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้งาน สภาพแวดล้อมเครือข่าย และฟีเจอร์ที่เปิดใช้งาน โปรดตรวจสอบสิ่งต่อไปนี้ก่อนพิจารณาการเปลี่ยนแบตเตอรี่

  1. หลังจากซื้ออุปกรณ์ใหม่
    ในระหว่างการตั้งค่าเริ่มต้น การซิงค์บัญชี หรือการกู้คืนข้อมูล การใช้แบตเตอรี่อาจเพิ่มขึ้นชั่วคราว โดยระบบจะกลับมาเสถียรหลังจากผ่านไปขณะหนึ่ง

  2. สภาพเครือข่ายไม่เสถียร
    ในพื้นที่ที่มีสัญญาณอ่อนหรือไม่เสถียร (เช่น ในรถไฟใต้ดินหรืออาคาร) อุปกรณ์อาจค้นหาการเชื่อมต่ออย่างต่อเนื่อง ทำให้การใช้แบตเตอรี่เพิ่มขึ้น

  3. แอปหรือฟีเจอร์หลายตัวทำงานพร้อมกัน
    การเก็บแอปที่ไม่ได้ใช้งานไว้ในพื้นหลังหรือเปิดใช้งาน Wi-Fi, Bluetooth, GPS หรือการซิงค์อัตโนมัติไว้ตลอดเวลาสามารถทำให้แบตเตอรี่หมดเร็วขึ้นได้

  4. ความสว่างสูงหรือการใช้งานอย่างหนักหน่วง
    การตั้งค่าความสว่างหน้าจอไว้สูง หรือการใช้แอปที่ใช้ทรัพยากรสูง (เช่น เกมหรือการสตรีมวิดีโอ) จะใช้พลังงานมากขึ้น

เพื่อลดการใช้พลังงาน ให้ปิดแอปที่ไม่ได้ใช้งาน เปิดโหมดประหยัดพลังงาน ปรับความสว่างของหน้าจอ และปิดฟีเจอร์ที่ไม่ได้ใช้งาน (Wi-Fi, Bluetooth, GPS, การซิงค์อัตโนมัติ)
คุณยังสามารถใช้การดูแลอุปกรณ์และแบตเตอรี่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพอุปกรณ์โดยอัตโนมัติได้เช่นกัน

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสาเหตุและวิธีแก้ไขโดยละเอียดได้จากคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับแบตเตอรี่หมดลงอย่างรวดเร็วในอุปกรณ์ Galaxy

สาเหตุที่แบตเตอรี่ร้อนเกินไปเมื่ออุปกรณ์ไม่ได้ใช้งาน

แม้ว่าอุปกรณ์ของคุณจะไม่ได้ใช้งานอยู่ ก็อาจรู้สึกร้อนได้เนื่องจากปัจจัยต่างๆ ในกรณีส่วนใหญ่ ความร้อนมาจากส่วนประกอบฮาร์ดแวร์ เช่น ชิปเซ็ต มากกว่าที่จะมาจากแบตเตอรี่เอง

ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้เมื่อแอปบางตัวยังคงทำงานอยู่ในพื้นหลังหรือเมื่อการซิงค์อัตโนมัติใช้ทรัพยากรระบบจำนวนมาก ในระหว่างการชาร์จแบบไร้สาย ความร้อนอาจเกิดขึ้นได้หากมีวัตถุโลหะ เช่น เหรียญ กุญแจ หรือเคสโลหะติดอยู่ระหว่างอุปกรณ์กับขดลวดของที่ชาร์จ

หากอุปกรณ์ Galaxy ของคุณรู้สึกร้อน ให้ลองปรับปรุงประสิทธิภาพโดยใช้ฟีเจอร์การดูแลอุปกรณ์และแบตเตอรี่ และตั้งค่าแอปที่ใช้งานน้อยให้เป็นโหมดประหยัดพลังงาน เมื่อชาร์จแบบไร้สาย ให้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ถอดอุปกรณ์เสริมที่มีโลหะหรือวัตถุแปลกปลอมออกก่อนการชาร์จแล้ว

หากคุณสงสัยว่าตัวแบตเตอรี่เองมีปัญหา โปรดดูที่ส่วนถัดไปสำหรับคำแนะนำในการตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ของคุณ หากปัญหายังคงอยู่ โปรดไปที่ Samsung Service Center เพื่อรับการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสาเหตุและวิธีแก้ไขโดยละเอียดได้จากคำคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับปัญหาความร้อนในอุปกรณ์ Galaxy

วิธีตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่

คุณสามารถวินิจฉัยสถานะแบตเตอรี่ของอุปกรณ์ Galaxy ของคุณได้อย่างง่ายดายโดยใช้แอป Samsung Members
จากแท็บความช่วยเหลือ ให้เรียกใช้ฟีเจอร์การวิเคราะห์โทรศัพท์เพื่อตรวจสอบอายุการใช้งานและสุขภาพโดยรวมของแบตเตอรี่ ซึ่งช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจได้ว่าควรเปลี่ยนหรือบำรุงรักษาแบตเตอรี่หรือไม่
เนื่องจากคุณสามารถตรวจสอบสถานะการทำงานพื้นฐานได้โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์พิเศษหรือไปที่ Samsung Service Center การทำเช่นนี้จึงมีประโยชน์สำหรับการตรวจสอบด้วยตนเองเป็นประจำ

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสาเหตุและวิธีแก้ไขโดยละเอียดได้จากคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ในอุปกรณ์ Galaxy

ควรพิจารณาเปลี่ยนแบตเตอรี่เมื่อใด

โดยทั่วไป แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนอาจค่อยๆ สูญเสียประสิทธิภาพเมื่อเวลาผ่านไป การเปลี่ยนแปลงต่อไปนี้เป็นตัวอย่างของสัญญาณที่แบตเตอรี่อาจใกล้จะถึงจุดสิ้นสุดอายุการใช้งาน หากมีอาการเหล่านี้เกิดขึ้น แนะนำให้ตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่และพิจารณาเปลี่ยนแบตเตอรี่

  • แบตเตอรี่หมดลงอย่างรวดเร็วหลังจากชาร์จ
  • อุปกรณ์ปิดตัวลงโดยไม่คาดคิดในสภาพแวดล้อมที่เย็นหรือในฤดูหนาว

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสาเหตุและวิธีแก้ไขโดยละเอียดได้จากคำคำถามที่พบบ่อยเรื่องการเปลี่ยนแบตเตอรี่ในอุปกรณ์ Galaxy

เวลาที่คาดว่าจะใช้และการเตรียมการสำหรับการเปลี่ยนแบตเตอรี่ Galaxy

เวลาสำหรับบริการโดยประมาณ

โดยเฉลี่ยแล้ว การเปลี่ยนแบตเตอรี่ของอุปกรณ์ Galaxy อาจใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง เวลาจริงอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับรุ่น รายการที่ต้องตรวจสอบ และความพร้อมของชิ้นส่วน 

การเตรียมการก่อนการเปลี่ยนแบตเตอรี่

ควรเตรียมความพร้อมล่วงหน้าก่อนดำเนินการเปลี่ยน ก่อนอื่น ให้สำรองข้อมูลทั้งหมดในอุปกรณ์ Galaxy ของคุณเพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลสูญหายโดยไม่คาดคิดระหว่างการซ่อมแซม คุณสามารถบันทึกข้อมูลส่วนตัว เช่น รูปภาพ รายชื่อ และข้อมูลแอปได้อย่างง่ายดายโดยใช้ Samsung Cloud หรือโปรแกรม Smart Switch บนพีซี หรือแอปมือถือ Smart Switch

นอกจากนี้ เนื่องจากอุปกรณ์จำเป็นต้องปลดล็อกเพื่อให้ Samsung Service Center สามารถตรวจสอบและทดสอบได้ จึงแนะนำให้ปิดการล็อกด้วยลายนิ้วมือ รหัส PIN หรือรูปแบบการล็อกใดๆ ก่อนนำอุปกรณ์เข้ารับการซ่อมแซม

การเตรียมการเหล่านี้ล่วงหน้าจะช่วยให้กระบวนการซ่อมแซมและเปลี่ยนแบตเตอรี่เป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ข้อดีของการเปลี่ยนแบตเตอรี่ Galaxy ของคุณที่ Samsung Service Center

การใช้ Samsung Service Center มีประโยชน์ดังต่อไปนี้:

  • ประสิทธิภาพและความปลอดภัยที่เชื่อถือได้ ด้วยแบตเตอรี่ Samsung ของแท้
  • การตรวจสอบและซ่อมแซมโดยวิศวกรผู้ให้บริการที่ได้รับการรับรอง เพื่อป้องกันความเสียหายของอุปกรณ์
  • การรับประกันและบริการหลังการขายที่มีคุณภาพ เมื่อเทียบกับการซ่อมแซมที่ไม่ได้รับอนุญาต

หมายเหตุ:

  • ร้านซ่อมที่ไม่ได้รับอนุญาตอาจใช้ชิ้นส่วนที่ไม่แท้หรือไม่สามารถรับประกันคุณภาพการซ่อมได้ ขอแนะนำให้เข้ารับบริการที่ศูนย์บริการ Samsung ที่ได้รับอนุญาตเพื่อให้ได้รับการวิเคราะห์ที่แม่นยำและบริการหลังการขายที่เชื่อถือได้
  • ชื่อเมนู เส้นทาง และรูปแบบหน้าจออาจแตกต่างกันไปตามรุ่นอุปกรณ์ ซอฟต์แวร์ หรือเวอร์ชันแอป

ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นของคุณ

RC01_Static Content